วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

" เงินทองคือมายา แต่ข้าวปลาเป็นของจริง "



 






 วันนี้ขอยกวลี ของ ม.จ.สิทธิพร กฤษดากร ผู้ซึ่งเป็นนักบุกเบิกพัฒนางานด้านเกษตรกรรมจนได้ชื่อว่าเป็น " บิดาของเกษตรแผนใหม่ "
       ทำไมถึงมีคำวลีคำๆนี้   " เงินทองคือมายา  แต่ข้าวปลาเป็นของจริง " หากเรานำว่าวินิจวิเคราะห์ให้ถ่องแท้แล้ว เปรียบเทียบกับสภาวะข้าวยากหมากแพง ตลาดขาดแคลนสินค้าประเภทน้ำมันพืชอยู่ขณะนี้ แถมมีการแย่งกันซื้อถึงขั้นลงไม้ลงมือ ชกต่อยกันบ้างก็มี
     สถานการณ์กำลังชี้ว่า ถึงคุณมีเงินทองที่จะสามารถชื้อได้ก็จริง แต่ว่าตอนนี้มันไม่มีขายหายากเป็นอย่างยิ่ง จนถึงเข้าขั้นต้องแบ่งกันกิน แบ่งกันใช้ ตามอัตภาพ นี้ขนาดขาดแค่ น้ำมันในการใช้อุปโภคบริโภค หากว่าเป็นอาหารชนิดอื่น เช่น ข้าว ผัก ปลา ฯลฯ ไม่อยากจะนึกถึงว่ามันจะวุ่นวายขนาดใหน
    ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์มแน่นอนปัญหาหนึ่งคือมาจากการจัดสรรน้ำมันปาล์มผิดพลาด ระหว่างการอุปโภคบริโภค กับ การนำมาใช้ในพลังงานทดแทน แทนที่จะให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนกลับไปส่งเสริมพลังงานทดแทนจนลืมว่า ผลผลิตยังไม่พอเพียงถึงขั้นไปใช้กับพลังงานทดแทน ผลสุดท้ายก็เกิดการขาดแคลนขึ้นมาที่เห็นๆกันอยู่
   อันที่จริงก็น่าจะโทษรัฐบาลอยู่หรอก เพราะเวลาชาวสวนนำผลผลิตปาล์มผลไปขาย เขาไม่สามารถทราบว่าโรงงานจะนำผลผลิตนี้ไปใช้เกี่ยวกับอุปโภคบริโภคหรือเกี่ยวกับพลังงานทดแทน โรงงานบีบน้ำมันสด นี้แหละตัวดีน่าจะรู้ แต่รัฐบาลก็ไม่มีมาตรการอะไรออกมาเพื่อบังคับกลุ่มโรงงานจะให้ขายสัดส่วนบริโภคเท่าไรพลังงานทดแทนเท่าไร ต้องมีมาตราการออกมาถึงจะควบคุมได้
    นี้แค่หนังตัวอย่าง ทำให้มองเห็นภาพชัดว่าแม้ว่าจะมีเงินทองมากมาย แต่หากเกิดการขาดแคลนอาหารขึ้นมาก็ไม่สามารถที่จะซื้อได้ แต่ที่เป็นของจริงคือ คุณต้องมีข้าว ปลา มีของกินอยู่ในมือ มีอาหารเลี้ยงตัวเองได้ ถึงจะสู้กับยุคข้าวยากหมากแพงได้
   ในสมัยก่อนประเทศไทยได้ชื่อว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว " แต่ละครอบครัวมีนาข้าว ในนามีปลาให้กิน ไม่มีอดตายครับ ไม่มีเงินก็สามารถอยู่ได้ชั่วนาตาปี บรรพบุรุษเราทำให้เราเห็นแล้วว่าอยู่ได้จริงๆ
     แต่ว่าในปัจจุบันนี้ คนทิ้งท้องไร่ท้องนา มาทำงานโรงงาน ทำงานบริษัทจนลืมวิถีชีวิตแบบเก่า มาดิ้นร้นอยู่ในเมืองหลวง ตามยุคตามสมัย เคยมีนาย อวิน ทอฟเลอร์ ได้แบ่งคลื่นการพัฒนาเศรษฐกิจออกเป็น 3 ยุค เริ่มจาก เกษตรกรรม มายุคอุตสาหกรรม และยุคเทคโนโลยี่ ตามลำดับ
      ตอนนี้เรากำลังอยู่ยุคเทคโนโลยี่ เมื่อหมดยุคนี้แล้วจะกลับไปยุคเกษตรอีกหรือไม่ ดูได้จากการตื่นตัวค่อราคาพืชผลทางเกษตร ที่กำลังกลายเป็น ข้าวปลาคือของจริง เพราะว่ามีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็น ยางพารา ปาล์ม ข้าว อ้อย หรือสินค้าเกษตรชนิดอื่น จนคนจากภาคอุตสาหกรรมมุ่งกลับบ้านนอก ปลูกข้าว ยางพารา ปาล์ม อ้อย กันอย่างคึกคัก
   ไม่เว้น สองเจ้าสัวใหญ่อย่างเจ้าสัวธนินทร์ และเจ้าสัวเจริญ ที่เข้ามาจับธุรกิจเกษตรอย่างเป็นล่ำเป็นสัน กับการปลูกพืชพลังงานทดแทนทั้งปาล์มและยางพารา ทำให้เราเริ่มมองเห็นแล้วว่า ปัจจุบันนี้" เงินทองคือมายา  แต่ข้าวปลาคือของจริง " ที่กินเท่าไรก็ไม่หมดครับ
ขอบคุณภาพจากhttp://www.engineeringtoday.net/magazine/articledetail.asp?arid=3066&pid=301

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น