อาชีพเลี้ยงหมูป่า

อาชีพเลี้ยงหมูป่า เกษตรกรสามารถเลี้ยงเพื่อเป็นรายได้หลักหรือเสริมก็ได้

หมูป่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายสามารถใช้อาหารในท้องถิ่นที่มีคุณภาพ ต่ำและเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นอาหารได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันความต้องการในการบริโภคเนื้อหมูมีค่อนข้างมากแต่มีผู้เลี้ยงน้อย ทำให้ผลผลิตเนื้อหมูป่ามี ไม่เพียงพอ ดังนั้น ราคาเนื้อหมูป่าจึงสูงกว่าราคาเนื้อหมูปกติทั่วไป เกษตรกรจึงหันมาสนใจเลี้ยงมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเลี้ยงหมูในป่าในเชิงอนุรักษ์ เพื่อทดแทนหมูป่าตาธรรมชาติ ซึ่งในปัจจุบันมี จำนวนน้อยลง
การเลี้ยงดูพันธ์หมูป่า

เงื่อนไขความสำเร็จ

1 พื้นที่ที่ใช้เลี้ยงหมูป่าต้องอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาถูกหรือ มีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อใช้เป็นอาหารเลี้ยงหมูป่าอย่างเพียงพอ
2 เกษตรกรต้องมีความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงหมูป่า
3 ต้องมีแหล่งจำหน่ายพันธุ์และตลาดรับซื้อหมูป่าที่ชัดเจน แน่นอน

เทคโนโลยีและกระบวนการผลิต

พันธ์หมูป่า ลักษณะ รูปร่างของสุกรป่าทั่วไปจะมีขนหยาบแข็ง มีสำน้ำตาลเข้มหรือ สีดำเข้ม หรือสีดอกเลา หนังหนา หน้ายาว จมูกยาว และแหลมกว่าสุกรพันธุ์พื้นเมือง ขาเล็กและเรียว ดูปราดเปรียวทั่วไปจะพบอยู่ 2 พันธุ์ คือ พันธุ์หน้ายาว และพันธุ์หน้าสั้น
โรงเรือนและอุปกรณ์ เนื่อง จากหมูป่ายังมีพฤติกรรมเป็นสัตว์ป่า มีอาการตื่นเมื่อคนอยู่ใกล้ และอาจจะแสดงอาการดุร้าย ดังนั้น โรงเรือนจะต้องสร้างให้แข็งแรงทนทาน โดยใช้วัสดุก่อสร้างที่หาในบริเวณพื้นที่อาจไม่จำเป็นต้องเทพื้นซีเมนต์ แต่ต้องมีรั้วรอบที่มิดชิด ป้องกันหมูป่าขุดดินมุดหนีออกมานอกรั้วได้ ควรจะมีการแยกคอก พ่อ-แม่พันธุ์, คอกคลอดเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดกับลูกหมูป่า
อาหารและการให้อาหาร อาหาร หมูป่า มีความหลากหลาย เนื่องจากหมูป่า สามารถใช้อาหารในท้องถิ่นที่มีคุณภาพต่ำและเศษวัสดุเหลือใช้ทางเกษตรได้เป็น อย่างดี เช่น ต้นกล้วย มันสำปะหลัง มันเทศ ข้าวโพด ผลปาล์ม ผักชนิดต่างๆ นอกจากนี้สามารถผสมอาหารเลี้ยงหมูป่าได้เอง โดยใช้มันเส้นสับเป็นชิ้นเล็กๆ 60 ส่วน รำ 40 ส่วน เกลือป่นเล็กน้อยคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักในภาชนะปิดสนิท นาน 1 เดือน จากนั้นนำมาให้หมูป่ากินเป็นอาหาร โดยให้วันละมื้อ
การจัดการเลี้ยงดู เกษตรกร ควรเริ่มด้วยการเลี้ยงหมูป่าพ่อ-แม่พันธุ์อายุ 3 เดือน การจัดการเลี้ยงดูหมูป่าควรใช้อัตราการผสมพันธุ์พ่อพันธุ์ 1 ตัวต่อแม่พันธุ์ 5-10 ตัว หมูสาวผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุ 7 เดือน และจะอุ้มท้อง 114 วัน โดยจะให้ลูกประมาณ 5-6 ตัวต่อครอก ซึ่งพ่อ-แม่พันธุ์จะสามารถเลี้ยงเพื่อผสมพันธุ์ได้นานประมาณ 5-6 ปี การเลี้ยงพ่อ-แม่พันธุ์ควรจะต้องแยกเป็นสัดส่วน เมื่อแม่หมูป่าท้องใกล้คลอดจะต้องแยกแม่ออกจากฝูงมาอยู่ที่คอกคลอดเพื่อ ป้องกันพ่อหมูป่ากัดทำร้ายลูก ซึ่งในระยะนี้ผู้เลี้ยงควรระวังอันตรายจากแม่หมูป่าเพราะจะมีนิสัยดุร้าย ขึ้น ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรที่จะรบกวนแม่หมูป่าให้น้อยที่สุดการเลี้ยงปัจจุบันจะมุ่งเพื่อ การจำหน่ายพันธุ์ ได้แก่ ลูกหมูป่าอายุ 3 เดือน แต่ถ้าเลี้ยงจนโตหมูป่าที่โตเต็มที่จะหนักประมาณ 80 กิโลกรัม ก็จะจำหน่ายให้กับผู้บริโภคได้
การสุขาภิบาล ถึงแม้ว่าหมูป่าจะมีสุขภาพแข็งแรงกว่า สุกรชนิดอื่นๆ แต่ผู้เลี้ยงก็ควรจะต้องให้ความสนใจหมั่นดูแลสุขภาพหมูป่าที่เลี้ยง ควรมีการถ่ายพยาธิและทำวัคซีนตามโปรแกรมที่กำหนด

ต้นทุนและผลตอบแทน

สำหรับการเลี้ยงหมูป่า 1 ชุด ซึ่งประกอบด้วย พ่อพันธุ์ 1 ตัวและแม่พันธ์ 5 ตัว
ต้นทุน ในส่วนต้นทุนหลัก จะได้แก่ ค่าพ่อแม่พันธุ์ ค่าโรงเรียนและอุปกรณ์ ซึ่งจะมีต้นทุนประมาณ 15,000 – 25,000 บาท
หมูป่าผลตอบแทน จะ ได้จากการจำหน่ายลูกหมูป่า (อายุ 3 เดือน) ประมาณ ปีละ 30 ตัว จำหน่ายในราคาตัวละ 1,500 บาท มีผลตอบแทนประมาณ 45,000 –50,000บาท โดยในปีต่อมาผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นและจะมีจุดคุ้มทุนในปีที่ 3 ทั้งนี้ต้นทุนการผลิตและผลตอบแทนจะมีความผันแปรไปตามสภาวะตลาด ขนาดการผลิต และแหล่งที่เลี้ยงเป็นสำคัญ ดังนั้นก่อนการตัดสินใจเลี้ยง เกษตรกรจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดในการเลี้ยงให้ชัดเจน
แหล่งข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม
- กลุ่มวิจัยและพัฒนาสัตว์เล็ก กองบำรุงพันธุ์สัตว์ กรมปศุสัตว์ โทร.0-2653-4453
- ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์/สถานีวิจัยทดสอบพันธุ์สัตว์ ในพื้นที่ใกล้เคียง
- สำนักพัฒนาการปศุสัตว์และถ่ายทอดเทคโนโลยีกรมปศุสัตว์ กรุงเทพฯ โทร. 0-2653-4471
- สำนักพัฒนาการปศุสัตว์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ
- สำนักสุขศาสตร์และสุขอนามัยที่ 1-9
- นางน้อย สว่างเมฆ 63/2 หมู่4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จกาญจนบุรี 71150 โทร. 0-1795-9606
- นางบุศรารัตน์ เสาวมล 203/23 หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 71180 โทร.0-9811-7423
ที่มา : หนังสือ 117 อาชีพการเกษตร 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น